หงส์แดง เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือสมองเพชรชาวเยอรมันของลิเวอร์พูล แทบกุมขมับกับการจัดทัพรับมือเลสเตอร์ ซิตี้ในเกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษคืนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2563 หลังจากหงส์แดง ระส่ำอย่างหนักจากปัญหานักเตะเจ็บบัญชียาวเป็นหางว่าว
โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ยังหมดสิทธิ์ลงล่าตาข่ายให้ หงส์แดง
เนื่องจากดาวยิงทีมชาติอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 จากการเดินทางไปร่วมงานแต่งงานของน้องชาย เดิมทีขุมกำลังของหงส์แดงก็แทบจะพิการอยู่แล้ว โดยเฉพาะในแนวรับที่ขาดหัวใจของทีมอย่างเฟอร์กิล ฟาน ไดค์จากการที่ปราการหลังจอมแกร่งแห่งทีมชาติฮอลแลนด์ผ่าตัดที่หัวเข่าส่อแววพักยาวทั้งฤดูกาล ขณะที่โจ โกเมซ แนวรับตัวความหวัง ยังมาเจ็บจากการซ้อมร่วมกับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ เช่นเดียวกับรีส วิลเลี่ยมก็เดี้ยงไปอีกรายจนต้องถอนตัวจากทีมสิงโตคำรามชุดยู-21 ทางด้านเทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์กว่าจะสลัดปัญหาบาดเจ็บกลับมาช่วยหงส์แดงอีกครั้งก็ต้องรอนานร่วมเดือน
สำหรับการขาดซาล่าห์นับเป็นความเสียหายไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเพชรฆาตรขวัญใจหงส์แดงมีผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ออกมาเป็นบวก ทำให้เจ้าตัวต้องถูกกักตัวที่บ้านเกิดไปตามระเบียบ อย่างไรก็ดีหงส์แดงยังพอมีข่าวดีบ้างเมื่อเพชรน้ำงามเม็ดใหม่ในแอนฟิลด์อย่างดิโอโก้ โชต้า ศูนย์หน้าชาวโปรตุกีส พร้อมที่จะลงทำหน้าที่แทนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง หลังจากโชว์เพลงแข้งให้หงส์แดงระเบิดเถิดเทิงกับบทซูเปอร์ซับมาหลายนัดแล้ว
นอกจากนี้แฟนหงส์แดงต้องพากันภาวนาให้ฟาบินโญ่ ดาวเตะสารพัดประโยชน์ทีมชาติบราซิล และติอาโก อากันตาล่า จอมทัพทีมชาติสเปน จะหายเจ็บกลับมาช่วยหงส์แดงได้ตามที่คาดหวังไว้ ขณะเดียวกันนั้นก็ต้องลุ้นความฟิตของแบ๊กซ้ายติดจรวดอย่างแอนดรูว์ โรเบิร์ตสันที่มีอาการบาดเจ็บติดตัวมาจากการไปเล่นให้สกอตแลนด์
เกมแชมป์ชนแชมป์ในสุดสัปดาห์นี้มีความหมายต่อหงส์แดงไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากหงส์แดงสามารถสยบอดีตแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเลสเตอร์ลงได้ก็จะทำให้หงส์แดงโบยบินขึ้นไปรั้งจ่าฝูงศึกลูกหนังลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีทันทีจากการที่ตอนนี้หงส์แดงมีคะแนนตามหลังจิ้งจอกสยามเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น
แต่งานนี้เจอร์เก้น คล็อปป์และพลพรรคหงส์แดงก็คงจะไม่ได้เจอกับงานง่ายอย่างแน่นอน เมื่อเลสเตอร์ออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ได้อย่างเยี่ยมยอดจากผลงานการกวาดชัยไป 6 เกมและพ่ายไป 2 นัดภายใต้การกุมบังเหียนของอดีตกุนซือหงส์แดงอย่างเบรนแดน ร็อดเจอร์ส และเชื่อว่าเกมนี้คงเปิดหน้าแรกกันอย่างสนุกทั้งเกมเมื่อทั้งคู่ต่างเน้นสไตล์เดินหน้าฆ่ามัน และร็อดเจอร์สก็ปรุงเลสเตอร์ได้กลมกล่อมลงตัวจากการรัวไปเกือบ 20 เม็ดแค่ 8 นัดแรกของซีซั่นนี้